คนที่เขาร่ำรวยอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าเขามีผลมีวาสนามาดีอะไรหรอกนะ ต่อให้มีเงินเป็นล้านๆมาวางอยู่ตรงหน้าแต่ไม่รู้จักการอดออม หรือ ทำให้มันเกิดประโยชน์มันก็สามารถที่จะหมดลงไปได้เหมือนกัน เพราะคนเราทุกคนต่างคนก็ต่างมีสิทธิ์ที่จะรวยด้วยกันทั้งนั้น ถ้าอยากที่จะรวยมันก็ไม่ได้มีหลักเกณฑ์ที่ยากหรือวุ่นวายอะไรมากนักเพียงแค่เรานั้นรู้จักการอดออม ในการอดออมในที่นี้ไม่ใช่ว่ามีเท่าไรก็ออมจนหมดจนทำให้ตัวเองรำบากเพราะเพียงแค่อยากได้เงินเก็บไว้เยอะๆนั้นมันก็จะทำให้ตัวเองรำบากเปล่าๆ ความหมายในตัวของคำว่า “อดออม” มันก็คือ ๑.อด การรู้จักที่จะอดไม่ซื้อของที่ไร้สาระหรือไม่มีความจำเป็นในชีวิต ๒.ออม เก็บไว้ใช้ในยามที่รำบากหรือฉุกเฉินจริงๆ ในการออมเราต้องมีการตั้งเป้าหมายไว้ว่าเราจะออมเท่าไรจะใช้จ่ายเท่าไร โดยการออมเงินนั้นเราต้องรู้จักที่จะปลูกฝังให้ทำตั้งแต่ที่เด็กยังเรียนอยู่เพื่อที่จะได้มีเงินเก็บไว้ในยามที่เติบโต โดยจะมีวิธีออมง่ายๆมาบอกคือ ต้องมีการแบ่งคนออกเป็นสามส่วนในสามส่วนนี้ไม่จำเป็นที่จะมีจำนวนเท่ากันก็ได้เพราะในการใช้จ่ายแต่ละอย่างมันก็มีความแตกต่างกัน
ส่วนที่หนึ่ง เป็นเงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันแน่นอนว่าคนทุกคนต้องมีค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นค่ารถ ค่าอาหารหรือซื้อของที่ตัวเองต้องการ ซึ่งมันก็ต้องมีการจ่ายออกไปในทุกๆวันเราก็ควรที่จะจัดวางไว้ให้มันเป็นสัดส่วนของมัน
ส่วนที่สอง เป็นเงินที่จะต้องใช้จ่ายในครอบครัว(ถ้ากรณีเป็นนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่เงินส่วนนี้ก็จะเป็นเงินส่วนที่จะต้องเก็บไว้ในการเล่าเรียน อย่างเช่นการ ซื้อของทำรายงาน ซื้อหนังสือเรียน เป็นต้น เพื่อจะได้เป็นการแบ่งเบาภาระพ่อแม่อีกทางหนึ่ง) การใช้จ่ายในครอบครัวไม่เหมือนกับส่วนที่หนึ่งเพราะมันจะมีความแตกต่างกันตรงที่ว่า เงินส่วนนี้จะเป็นเงินที่ใช้จ่ายเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากับข้าว ค่าของใช้ต่างๆ ที่จะต้องซื้อมาเพื่อใช้ภายในบ้านบ้าน
ส่วนที่สาม เป็นเงินที่ใช้สำหรับการออม ส่วนนี้อาจจะไม่ได้มีจำนวนที่มากเหมือนกับสองส่วนที่ผ่านมาแต่อย่างน้อยเราก็ต้องมีส่วนนี้เก็บไว้เพื่อที่ยามเราลำบากเราก็จะยังสามารถนำเงินส่วนนี้มาใช้ได้อย่างไม่ติดขัด
คนเราถ้ารู้จักที่จะทำอะไรด้วยความมุ่งมั่นแล้ว เราก็จะสามารถที่จะทำมันออกมาได้ดีเสมอ มันก็เหมือนกับการที่เราออมเงิน เมื่อเรามีความมุ่งมั่นตั้งเป้าหมายไว้แน่วแน่น เราก็จะสามารถทำมันได้